KFC เป็นร้านที่ผมกินบ่อยครับ เพราะราคาไม่แพงมาก รสชาติอร่อย และบริการดี
แต่วันนี้ผมกลับเจอการบริการที่ทำให้อารมณ์เสียและทานอาหารไม่อร่อย
ผมไม่อยากให้ใครต้องมาเจอเหตุการณ์แบบนี้อีก
จึงตั้งกระทู้ขึ้น เป็นการเล่าถึงเหตุการณ์ในร้านและปัญหาที่พบ
เพื่อให้เกิดการปรับปรุงแก้ไข้การบริการของสาขานี้ครับ (ปกติกินสาขาอื่นไม่เห็นเป็นงี้เลย)
เรื่องที่จะเขียนค่อนข้างยาวนะครับ แต่ปัญหาจริงๆ ที่ทำให้ผมมาตั้งกระทู้อยู่ในข้อ 3 และ 4 ครับ
1. เริ่มจากเดินเข้าไปในร้าน มีคนกำลังสั่งของอยู่ผมต้องรอคิว มีพนักงานหลังเค้าเตอร์ประมาณสี่หรือห้าคนไม่แน่ใจ แต่เปิดช่องบริการแค่หนึ่งช่อง ผมจึงเดินไปช่องที่สองเผื่อเขาจะเปิดให้ แต่ก็ไม่เปิด อันนี้ก็ไม่ได้อะไรมากถ้าเปิดให้จะดีมาก ถ้าไม่เปิดก็ไม่เป็นไรครับ
2. ผมสั่งข้าวยำไก่แซบ แป็ปซี่แก้วใหญ่ และวิ้งแซบ "สอง" ชิ้นครับ
พนักงาน A: วิ้งแซบกี่ชิ้นคะ
ผม : "สอง" ชิ้นครับ
พนักงาน A: (ทบทวนรายการสินค้า) และวิ้งแซบ "สาม" ชิ้นนะคะ
ผม : โทษนะครับ เมื่อกี้วิ้งแซบกี่ชิ้นนะ ผมสั่งสอง
พนักงาน A: อ๋อๆ ค่ะ
แล้วพนังงานก็คุยกันข้างหลัง ประมาณว่า ยังแก้ได้ใช่ไหม บลาๆ
คือตรงนี้อยากให้ฟังลูกค้าหน่อย ผมบอกไปสองรอบว่า "สอง" ชิ้น แล้วยังทำรายการผิดอีก
ผมมั่นใจว่าตัวเองพูดชัด และไม่ได้เบาเกินไป
เรื่องนี้ก็ยังไม่เท่าไหร่แค่ผมระวังหน่อยก็แก้ปัญหานี้ได้ด้วยตัวเอง
จากนั้นก็จ่ายเงินไป จำนวน 107 บาท
ข้าวยำและโค้ก 69
เพิ่มเป็นแก้วใหญ่ 6
วิ้งแซ่บ 32
3. จากนั้นพนักงาน A ให้ผมมายืนรอคิวข้างๆ พอได้อาหารผมก็แปลกใจ
โค้ก และวิ้งแซบปกติดี แต่ข้าวยำไก่แซ่บกลับเป็นไก่ที่ราดน้ำยำมาโดยไม่มีผักยำอะไรเลย
ผมก็งง คิดว่าตัวเองสั่งผิดรึป่าว จึงสอบถามกับพนักงาน B ที่เอาอาหารมาส่ง
ผม : นี่ข้าวยำไก่แซ่บรึป่าวครับ ทำไมไม่มีผักยำเหรอครับ?
พนักงาน B: อ๋อ พอดีวันนี้ไม่มีผักค่ะ ขอโทษด้วยนะค่ะ (พนักงานคนนี้มารยาทดีครับ)
จากนั้นก็หันไปคุยกับพนักงาน A ว่า "บอกลูกค้าด้วยว่าวันนี้ไม่มีผัก"
ผม : งั้นขอแคนเซิลได้มั้ยครับ
พนักงาน B : ได้ค่ะ เปลี่ยนเป็นอะไรดีค่ะ
ผม : งั้นเอาเป็นชุดโดนใจสองแทนครับ
พนักงาน B: ได้ค่ะ รอซักครู่นะคะ
ตอนนี้ผมเริ่มไม่โอเคแล้ว คือผมมากิน KFC วันนี้เพราะเมนูนี้โดยเฉพาะจริงๆ ถ้าบอกตั้งแต่ตอนสั่งว่าไม่มีผักยำผมจะไม่อะไรเลย มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ แต่นี้ไม่บอกอะไรแล้วปล่อยให้ทำรายการ ปล่อยให้ผมต้องรอคิวอาหารฟรีๆ ต้องผิดหวังว่าจะได้กินแล้วไม่ได้กิน เสียความรู้สึก เสียเวลา และที่สำคัญคือผมหิวมากกกก นี้ต้องมารอทำอาหารใหม่อีก ซึ่งอยากจะบอกว่าสาขานี้จัดอาหารช้ากว่าสาขาที่ผมกินประจำมาก
4. ตอนแรกคิดว่าสั่งใหม่แล้วพนักงานจะทำรายการให้แล้วแค่รอคิวปกติ
แต่ไม่ครับ ต้องไปเรียกใครมาก็ไม่รู้ คุยกันโน่นนี่อีกสามสี่นาทีกว่าจะทำรายการใหม่ให้ได้
แล้วผมก็ได้อาหารครับ
ผม : ต้องจ่ายเพิ่มเท่าไหร่ครับ (คือผมต้องถามเองนะ เพราะเขาไม่บอกอะไร ถ้าผมจะถืออาหารไปนั่งกินเลยก็ได้)
พนักงาน B : อ๋อ ซักครู่ค่ะ (แล้วก็ไปคุยกันอีก พนักงานสี่ห้าคนเมื่อกี้นั่นแหละครับ ปัญหาเล็กๆ แบบนี้คือต้องเรียกประชุมเลยไหม?่)
เชื่อไหมครับ เรื่องแค่นี้ผมต้องรออีกประมาณหนึ่งนาทีเลยทีเดียว
พนักงาน C : จ่ายเพิ่มอีก 16 บาทนะคะ
ผม : ทำไม 16 บาทล่ะครับ ราคาเพิ่มมาแค่ 10 บาทเองครับ
พนักงาน C : (ทำหน้างง) เอ่อ... ถูกแล้วนะคะ (แล้วก็ก้มไปดูบิล)
ผม : ช่วยแจ้งได้มั้ยครับว่ารายการไหนบ้างที่เพิ่มราคามา
พนักงาน C : ได้ค่ะ เอ่อ... (จากนั้นก็ดูบิลอีก แล้วก็ทำหน้างงๆ ผมดูท่าทีแล้วคิดว่าผมให้โจทย์ยากไปครับ เลยถามคำถามใหม่)
ผม : เอางี้นะครับ ช่วยบอกราคาของอาหารชุดใหม่นี้มา
พนักงาน C : ค่ะ ชุดโดนใจโค้กแก้วใหญ่ 85 บาท และวิ้งแซบสองชิ้น 32 บาทค่ะ
ผม : 85+32 ได้เท่าไหร่ครับ (ผมอยากให้เขาคิดเอง เพราะถ้าผมบวกให้ เขาก็จะบวกใหม่อยู่ดี)
พนักงาน C : 117 บาทค่ะ
ผม : ใช่ครับ และเมื่อกี้ผมจ่ายไปแล้ว 107 บาท ของใหม่ราคา 117 บาท ราคาที่เพิ่มมาควรจะเป็น 10 บาทนะครับ ไม่ใช่ 16
พอผมพูดจบ เธอก็เหมือนจะเข้าใจครับ จากนั้นก็หันไปคุยกับพนังงาน A เลย คือไม่ตอบอะไรผมเลย อยู่ๆ ก็ไปทิ้งผมยืนตรงนั้น มารยาทแย่มากๆ ครับ
ถึงตอนนี้ผมก็รู้แล้วว่าหกบาทที่เพิ่มมาคือค่าเพิ่มขนาดแป็ปซี่ ความผิดพลาดของบิลอยู่ตรงนี้
แล้วรู้อะไรมั้ยครับ พวกเขาแก้ปัญหานี้กันนานมากๆ ผมยืนรออยู่ประมาณสามสี่นาที คือผมว่ามันเกินไปนะ
ที่รอนี่คือรอเขาคิดเลขกันอยู่นะครับ ไม่ได้รอระบบ ก็ยืนคำนวนกันอยู่นั่นแหละบวกลบเลขไม่กี่ตัว ซักพักมีคนเอาเครื่องคิดเลขมา
ตอนนี้ผมอารมณ์เสียมาก คือมารยาทพนักงานแย่มาก ให้ผมยืนรออยู่ ไม่มีขอโทษในความผิดพลาดอะไรเลย
บรรยากาศตอนนั้นคือมีคนมารอคิวประมาณหกเจ็ดคนครับ เค้าเปิดช่องเดียวคิวเลยยาวมาก ผมก็เกรงใจคนที่รอคิวเหมือนกัน
ที่จริงมันแค่หกบาท ผมไม่ต้องทวงก็ได้ ผมไม่ได้อยากได้เงินเลย แต่ผมว่ามันไม่โอเคถ้ามันเกิดปัญหาแบบนี้กับทุกคน
คนอื่นเขาไม่ได้มาคำนวนอยู่หรอกว่าบิลถูกต้องไหม
จากนั้นเมื่อพวกเขาคำนวนกันเสร็จ
พนักงาน A : ค่ะ ต้องเพิ่มเงินสิบบาท ถูกแล้วนะค่ะ (จากประโยคนี้คือผมมองไม่เห็นความสำนึกผิดในตัวพนักงานเลย อีกทั้งไม่มีคำว่าขอโทษด้วย และจากคำพูดนี้ของพนักงาน คนที่ยืนรอคิวอยู่ได้ฟัง ถ้าไม่ทราบเรื่องตั้งแต่แรกก็คงคิดว่าผมเองเป็นฝ่ายผิด ทำให้พวกเขาต้องรอคิวด้วยซ้ำ จากนั้นก็มีพนักงานไปเปิดช่องบริการสอง หลังจากช่วยกันคำนวนเสร็จ)
ผม : เมื่อกี้ทราบใช่ไหมครับว่าคิดเงินผิด (คำพูดนี้ของผมไม่โอเคเลย เพราะผมไม่โอเคแล้ว ผมต้องรอพวกคุณนานเกินไปแล้ว เสียความรู้สึกมากเกินไปแล้ว ผมรู้สึกเหมือนโดนโบ้ยความผิดให้ และอย่างที่บอก ผมไม่เห็นความสำนึกผิดจากพนักงานเลย ทั้งจากคำพูด แววตา หรือการกระทำ)
พนักงาน A : อะไรนะค่ะ
ผม : ผมถามว่ารู้ตัวใช่ไหมครับว่าคิดบิลผิด ถ้ารู้ตัว ต่อไปจะได้ไม่ทำผิดอีก (จากนั้นเธอก็ทำน่าไม่พอใจครับ ไม่ได้ตอบอะไรแล้วก็หันไปต้อนรับลูกค้ารายอื่น พนักงานคนนี้ก็คนที่ไม่ได้บอกผมว่าข้าวยำไก่แซ่บที่ส่งไม่มีผัก เป็นคนที่คิดบิลผิด และผมไม่ได้คำขอโทษจากเธอซักคำเดียว)
แล้วพนักงานคนอื่นก็เดินมารับเงิน ผมก็ให้แบงค์ห้าสิบไป
เหตุการณ์ในข้อนี้คือจุดพีกครับ มันเป็นอะไรที่แย่มากๆ สำหรับผม มันทำให้ผมเสียความรู้สึกมากๆ จนต้องมาตั้งกระทู้ ตอนนี้ผมเริ่มพิจารณาว่าจะเรียกผู้จัดการดีไหม และถ้าคุณคิดว่าปัญหามีแค่นั้น คิดผิดแล้วครับ มันมีข้อต่อไป
5. หลังจากให้เงินไปก็มีหนักงานZ เดินมาที่เค้าเตอร์ เธอใส่ชุดต่างจากคนอื่น ผมเดาเอาว่าเป็นผู้จัดการ เธอเข้าไปที่พนักงาน A แล้วคุยอะไรกันไม่รู้ ตอนนี้ผมสงบสติอารมณ์อยู่ แล้วปรากฎว่า ผมไม่ได้รับเงินทอนครับ พวกเขาปล่อยให้ผมยืนอยู่ตรงนั้น นานมากๆ ความรู้สึกผมเหมือนซักสิบนาทีได้มั้งครับ แต่จริงๆ คงซักห้านาที คือนานมาก ให้รออะไรอีก จะแก้ปัญหาอะไรกันทอนเงินและออกบิลมาก่อนได้ไหม หลังจากรอประมาณห้านาทีผมก็ไม่รอต่อ ยกถาดอาหารออกมานั่งที่โต๊ะ ที่จริงผมไม่ได้รอเงินทอนนะ เพราะที่ผมทวงตั้งแต่แรกมันเป็นเรื่องของสิทธิผู้บริโภค และผมก็เห็นว่าพวกเขากำลังรับทราบปัญหาในเหตุการณ์นี้กันแล้ว ถือว่าเป้าหมายผมประสบผลแล้ว แต่ผมยืนรอบิลเพราะคิดว่ามันเป็นมารยาทที่ดีในการซื้อสินค้า แต่ก็นั่นแหละ เหตุการณ์ต่างๆ ทำให้ผมต้องเสียมารยาท
หลังจากผมนั่งโต๊ะประมาณห้านาทีหลังจากนั้นพนักงาน B ก็นำบิลและเงินทอนมาให้ และขอโทษผม
บิลที่ได้มีสองใบ ใบหนึ่งเป็นของผม(รายการใหม่ที่แก้ไขแล้ว) อีกใบเป็นของใครก็ไม่รู้...
ทำไมผมไม่เรียกผู้จัดการแทนที่จะมาตั้งกระทู้?
ผมสงสัยครับว่าพนักงานZ คือผู้จัดการ ถ้าเธอคือผู้จัดการจริง ผมก็ไม่มีอะไรจะคุย เพราะทั้งที่ผมยืนรออยู่ตรงนั้นตั้งนาน ผมยังไม่ได้การขอโทษจากเธอเลย ผมเลยตัดสินใจไม่เรียกผู้จัดการ และเลือกการตั้งกระทู้ในการแก้ปัญหานี้ครับ
ทำไมไม่ร้องเรียนไปทางเว็ปไซต์?
ผมคิดว่าช่องทางนี้มีประสิทธิภาพกว่าครับ
ปล.เรื่องเวลาในเหตุการณ์อาจไม่ถูกต้องร้อยเปอร์เซ้นต์ แต่ตั้งแต่ถึงคิวผม จนถึงผมได้บิลครบก็ประมาณครึ่งชั่วโมงครับ
ปล2.ขอย้ำอีกครั้งว่าจุดประสงค์ของกระทู้นี้คือเพื่อให้เกิดการปรับปรุงแก้ไขบริการครับ ทั้งเรื่องมารยาทพื้นฐาน และความสามารถในการแก้ไขปัญหาครับ ผมไม่อยากให้ใครต้องมาเสียอารมณ์ เสียความรู้สึกเหมือนผม
เรื่องราวแย่ๆในร้าน KFC สาขานี้ อยากให้มีการปรับปรุงครับ สาขาอื่นไม่เห็นเป็นงี้เลย
แต่วันนี้ผมกลับเจอการบริการที่ทำให้อารมณ์เสียและทานอาหารไม่อร่อย
ผมไม่อยากให้ใครต้องมาเจอเหตุการณ์แบบนี้อีก
จึงตั้งกระทู้ขึ้น เป็นการเล่าถึงเหตุการณ์ในร้านและปัญหาที่พบ
เพื่อให้เกิดการปรับปรุงแก้ไข้การบริการของสาขานี้ครับ (ปกติกินสาขาอื่นไม่เห็นเป็นงี้เลย)
เรื่องที่จะเขียนค่อนข้างยาวนะครับ แต่ปัญหาจริงๆ ที่ทำให้ผมมาตั้งกระทู้อยู่ในข้อ 3 และ 4 ครับ
1. เริ่มจากเดินเข้าไปในร้าน มีคนกำลังสั่งของอยู่ผมต้องรอคิว มีพนักงานหลังเค้าเตอร์ประมาณสี่หรือห้าคนไม่แน่ใจ แต่เปิดช่องบริการแค่หนึ่งช่อง ผมจึงเดินไปช่องที่สองเผื่อเขาจะเปิดให้ แต่ก็ไม่เปิด อันนี้ก็ไม่ได้อะไรมากถ้าเปิดให้จะดีมาก ถ้าไม่เปิดก็ไม่เป็นไรครับ
2. ผมสั่งข้าวยำไก่แซบ แป็ปซี่แก้วใหญ่ และวิ้งแซบ "สอง" ชิ้นครับ
พนักงาน A: วิ้งแซบกี่ชิ้นคะ
ผม : "สอง" ชิ้นครับ
พนักงาน A: (ทบทวนรายการสินค้า) และวิ้งแซบ "สาม" ชิ้นนะคะ
ผม : โทษนะครับ เมื่อกี้วิ้งแซบกี่ชิ้นนะ ผมสั่งสอง
พนักงาน A: อ๋อๆ ค่ะ
แล้วพนังงานก็คุยกันข้างหลัง ประมาณว่า ยังแก้ได้ใช่ไหม บลาๆ
คือตรงนี้อยากให้ฟังลูกค้าหน่อย ผมบอกไปสองรอบว่า "สอง" ชิ้น แล้วยังทำรายการผิดอีก
ผมมั่นใจว่าตัวเองพูดชัด และไม่ได้เบาเกินไป
เรื่องนี้ก็ยังไม่เท่าไหร่แค่ผมระวังหน่อยก็แก้ปัญหานี้ได้ด้วยตัวเอง
จากนั้นก็จ่ายเงินไป จำนวน 107 บาท
ข้าวยำและโค้ก 69
เพิ่มเป็นแก้วใหญ่ 6
วิ้งแซ่บ 32
3. จากนั้นพนักงาน A ให้ผมมายืนรอคิวข้างๆ พอได้อาหารผมก็แปลกใจ
โค้ก และวิ้งแซบปกติดี แต่ข้าวยำไก่แซ่บกลับเป็นไก่ที่ราดน้ำยำมาโดยไม่มีผักยำอะไรเลย
ผมก็งง คิดว่าตัวเองสั่งผิดรึป่าว จึงสอบถามกับพนักงาน B ที่เอาอาหารมาส่ง
ผม : นี่ข้าวยำไก่แซ่บรึป่าวครับ ทำไมไม่มีผักยำเหรอครับ?
พนักงาน B: อ๋อ พอดีวันนี้ไม่มีผักค่ะ ขอโทษด้วยนะค่ะ (พนักงานคนนี้มารยาทดีครับ)
จากนั้นก็หันไปคุยกับพนักงาน A ว่า "บอกลูกค้าด้วยว่าวันนี้ไม่มีผัก"
ผม : งั้นขอแคนเซิลได้มั้ยครับ
พนักงาน B : ได้ค่ะ เปลี่ยนเป็นอะไรดีค่ะ
ผม : งั้นเอาเป็นชุดโดนใจสองแทนครับ
พนักงาน B: ได้ค่ะ รอซักครู่นะคะ
ตอนนี้ผมเริ่มไม่โอเคแล้ว คือผมมากิน KFC วันนี้เพราะเมนูนี้โดยเฉพาะจริงๆ ถ้าบอกตั้งแต่ตอนสั่งว่าไม่มีผักยำผมจะไม่อะไรเลย มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ แต่นี้ไม่บอกอะไรแล้วปล่อยให้ทำรายการ ปล่อยให้ผมต้องรอคิวอาหารฟรีๆ ต้องผิดหวังว่าจะได้กินแล้วไม่ได้กิน เสียความรู้สึก เสียเวลา และที่สำคัญคือผมหิวมากกกก นี้ต้องมารอทำอาหารใหม่อีก ซึ่งอยากจะบอกว่าสาขานี้จัดอาหารช้ากว่าสาขาที่ผมกินประจำมาก
4. ตอนแรกคิดว่าสั่งใหม่แล้วพนักงานจะทำรายการให้แล้วแค่รอคิวปกติ
แต่ไม่ครับ ต้องไปเรียกใครมาก็ไม่รู้ คุยกันโน่นนี่อีกสามสี่นาทีกว่าจะทำรายการใหม่ให้ได้
แล้วผมก็ได้อาหารครับ
ผม : ต้องจ่ายเพิ่มเท่าไหร่ครับ (คือผมต้องถามเองนะ เพราะเขาไม่บอกอะไร ถ้าผมจะถืออาหารไปนั่งกินเลยก็ได้)
พนักงาน B : อ๋อ ซักครู่ค่ะ (แล้วก็ไปคุยกันอีก พนักงานสี่ห้าคนเมื่อกี้นั่นแหละครับ ปัญหาเล็กๆ แบบนี้คือต้องเรียกประชุมเลยไหม?่)
เชื่อไหมครับ เรื่องแค่นี้ผมต้องรออีกประมาณหนึ่งนาทีเลยทีเดียว
พนักงาน C : จ่ายเพิ่มอีก 16 บาทนะคะ
ผม : ทำไม 16 บาทล่ะครับ ราคาเพิ่มมาแค่ 10 บาทเองครับ
พนักงาน C : (ทำหน้างง) เอ่อ... ถูกแล้วนะคะ (แล้วก็ก้มไปดูบิล)
ผม : ช่วยแจ้งได้มั้ยครับว่ารายการไหนบ้างที่เพิ่มราคามา
พนักงาน C : ได้ค่ะ เอ่อ... (จากนั้นก็ดูบิลอีก แล้วก็ทำหน้างงๆ ผมดูท่าทีแล้วคิดว่าผมให้โจทย์ยากไปครับ เลยถามคำถามใหม่)
ผม : เอางี้นะครับ ช่วยบอกราคาของอาหารชุดใหม่นี้มา
พนักงาน C : ค่ะ ชุดโดนใจโค้กแก้วใหญ่ 85 บาท และวิ้งแซบสองชิ้น 32 บาทค่ะ
ผม : 85+32 ได้เท่าไหร่ครับ (ผมอยากให้เขาคิดเอง เพราะถ้าผมบวกให้ เขาก็จะบวกใหม่อยู่ดี)
พนักงาน C : 117 บาทค่ะ
ผม : ใช่ครับ และเมื่อกี้ผมจ่ายไปแล้ว 107 บาท ของใหม่ราคา 117 บาท ราคาที่เพิ่มมาควรจะเป็น 10 บาทนะครับ ไม่ใช่ 16
พอผมพูดจบ เธอก็เหมือนจะเข้าใจครับ จากนั้นก็หันไปคุยกับพนังงาน A เลย คือไม่ตอบอะไรผมเลย อยู่ๆ ก็ไปทิ้งผมยืนตรงนั้น มารยาทแย่มากๆ ครับ
ถึงตอนนี้ผมก็รู้แล้วว่าหกบาทที่เพิ่มมาคือค่าเพิ่มขนาดแป็ปซี่ ความผิดพลาดของบิลอยู่ตรงนี้
แล้วรู้อะไรมั้ยครับ พวกเขาแก้ปัญหานี้กันนานมากๆ ผมยืนรออยู่ประมาณสามสี่นาที คือผมว่ามันเกินไปนะ
ที่รอนี่คือรอเขาคิดเลขกันอยู่นะครับ ไม่ได้รอระบบ ก็ยืนคำนวนกันอยู่นั่นแหละบวกลบเลขไม่กี่ตัว ซักพักมีคนเอาเครื่องคิดเลขมา
ตอนนี้ผมอารมณ์เสียมาก คือมารยาทพนักงานแย่มาก ให้ผมยืนรออยู่ ไม่มีขอโทษในความผิดพลาดอะไรเลย
บรรยากาศตอนนั้นคือมีคนมารอคิวประมาณหกเจ็ดคนครับ เค้าเปิดช่องเดียวคิวเลยยาวมาก ผมก็เกรงใจคนที่รอคิวเหมือนกัน
ที่จริงมันแค่หกบาท ผมไม่ต้องทวงก็ได้ ผมไม่ได้อยากได้เงินเลย แต่ผมว่ามันไม่โอเคถ้ามันเกิดปัญหาแบบนี้กับทุกคน
คนอื่นเขาไม่ได้มาคำนวนอยู่หรอกว่าบิลถูกต้องไหม
จากนั้นเมื่อพวกเขาคำนวนกันเสร็จ
พนักงาน A : ค่ะ ต้องเพิ่มเงินสิบบาท ถูกแล้วนะค่ะ (จากประโยคนี้คือผมมองไม่เห็นความสำนึกผิดในตัวพนักงานเลย อีกทั้งไม่มีคำว่าขอโทษด้วย และจากคำพูดนี้ของพนักงาน คนที่ยืนรอคิวอยู่ได้ฟัง ถ้าไม่ทราบเรื่องตั้งแต่แรกก็คงคิดว่าผมเองเป็นฝ่ายผิด ทำให้พวกเขาต้องรอคิวด้วยซ้ำ จากนั้นก็มีพนักงานไปเปิดช่องบริการสอง หลังจากช่วยกันคำนวนเสร็จ)
ผม : เมื่อกี้ทราบใช่ไหมครับว่าคิดเงินผิด (คำพูดนี้ของผมไม่โอเคเลย เพราะผมไม่โอเคแล้ว ผมต้องรอพวกคุณนานเกินไปแล้ว เสียความรู้สึกมากเกินไปแล้ว ผมรู้สึกเหมือนโดนโบ้ยความผิดให้ และอย่างที่บอก ผมไม่เห็นความสำนึกผิดจากพนักงานเลย ทั้งจากคำพูด แววตา หรือการกระทำ)
พนักงาน A : อะไรนะค่ะ
ผม : ผมถามว่ารู้ตัวใช่ไหมครับว่าคิดบิลผิด ถ้ารู้ตัว ต่อไปจะได้ไม่ทำผิดอีก (จากนั้นเธอก็ทำน่าไม่พอใจครับ ไม่ได้ตอบอะไรแล้วก็หันไปต้อนรับลูกค้ารายอื่น พนักงานคนนี้ก็คนที่ไม่ได้บอกผมว่าข้าวยำไก่แซ่บที่ส่งไม่มีผัก เป็นคนที่คิดบิลผิด และผมไม่ได้คำขอโทษจากเธอซักคำเดียว)
แล้วพนักงานคนอื่นก็เดินมารับเงิน ผมก็ให้แบงค์ห้าสิบไป
เหตุการณ์ในข้อนี้คือจุดพีกครับ มันเป็นอะไรที่แย่มากๆ สำหรับผม มันทำให้ผมเสียความรู้สึกมากๆ จนต้องมาตั้งกระทู้ ตอนนี้ผมเริ่มพิจารณาว่าจะเรียกผู้จัดการดีไหม และถ้าคุณคิดว่าปัญหามีแค่นั้น คิดผิดแล้วครับ มันมีข้อต่อไป
5. หลังจากให้เงินไปก็มีหนักงานZ เดินมาที่เค้าเตอร์ เธอใส่ชุดต่างจากคนอื่น ผมเดาเอาว่าเป็นผู้จัดการ เธอเข้าไปที่พนักงาน A แล้วคุยอะไรกันไม่รู้ ตอนนี้ผมสงบสติอารมณ์อยู่ แล้วปรากฎว่า ผมไม่ได้รับเงินทอนครับ พวกเขาปล่อยให้ผมยืนอยู่ตรงนั้น นานมากๆ ความรู้สึกผมเหมือนซักสิบนาทีได้มั้งครับ แต่จริงๆ คงซักห้านาที คือนานมาก ให้รออะไรอีก จะแก้ปัญหาอะไรกันทอนเงินและออกบิลมาก่อนได้ไหม หลังจากรอประมาณห้านาทีผมก็ไม่รอต่อ ยกถาดอาหารออกมานั่งที่โต๊ะ ที่จริงผมไม่ได้รอเงินทอนนะ เพราะที่ผมทวงตั้งแต่แรกมันเป็นเรื่องของสิทธิผู้บริโภค และผมก็เห็นว่าพวกเขากำลังรับทราบปัญหาในเหตุการณ์นี้กันแล้ว ถือว่าเป้าหมายผมประสบผลแล้ว แต่ผมยืนรอบิลเพราะคิดว่ามันเป็นมารยาทที่ดีในการซื้อสินค้า แต่ก็นั่นแหละ เหตุการณ์ต่างๆ ทำให้ผมต้องเสียมารยาท
หลังจากผมนั่งโต๊ะประมาณห้านาทีหลังจากนั้นพนักงาน B ก็นำบิลและเงินทอนมาให้ และขอโทษผม
บิลที่ได้มีสองใบ ใบหนึ่งเป็นของผม(รายการใหม่ที่แก้ไขแล้ว) อีกใบเป็นของใครก็ไม่รู้...
ทำไมผมไม่เรียกผู้จัดการแทนที่จะมาตั้งกระทู้?
ผมสงสัยครับว่าพนักงานZ คือผู้จัดการ ถ้าเธอคือผู้จัดการจริง ผมก็ไม่มีอะไรจะคุย เพราะทั้งที่ผมยืนรออยู่ตรงนั้นตั้งนาน ผมยังไม่ได้การขอโทษจากเธอเลย ผมเลยตัดสินใจไม่เรียกผู้จัดการ และเลือกการตั้งกระทู้ในการแก้ปัญหานี้ครับ
ทำไมไม่ร้องเรียนไปทางเว็ปไซต์?
ผมคิดว่าช่องทางนี้มีประสิทธิภาพกว่าครับ
ปล.เรื่องเวลาในเหตุการณ์อาจไม่ถูกต้องร้อยเปอร์เซ้นต์ แต่ตั้งแต่ถึงคิวผม จนถึงผมได้บิลครบก็ประมาณครึ่งชั่วโมงครับ
ปล2.ขอย้ำอีกครั้งว่าจุดประสงค์ของกระทู้นี้คือเพื่อให้เกิดการปรับปรุงแก้ไขบริการครับ ทั้งเรื่องมารยาทพื้นฐาน และความสามารถในการแก้ไขปัญหาครับ ผมไม่อยากให้ใครต้องมาเสียอารมณ์ เสียความรู้สึกเหมือนผม